บพค. ผนึกนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญศูนย์ความเป็นเลิศด้านความหลากหลายทางชีวภาพสร้างงานวิจัย New Discovery สัตว์ถ้ำและระบบนิเวศเขาหินปูน เตรียมดันนโยบาย Biodiversity Credit ครัังแรกของไทย

เมื่อวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2568 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. มอบหมายให้ ดร.ศุภฤกษ์ บุพศิริ นักวิเคราะห์อาวุโส บพค. ร่วมติดตามการดำเนินงานวิจัยและจัดสัมมนาวิชาการภายใต้โครงการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของเขาหินปูนและถ้ำ เพื่อวิจัยความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตและการกักเก็บคาร์บอนรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
โดยมีศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ปัญหา ผู้รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (BDC-PERDO) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยศิลปากร กรมทรัพยากรธรณี และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ณ ห้องประชุมนิมมาน โรงแรมเทวมันตร์ทรา จังหวัดกาญจนบุรี

การจัดกิจกรรมสัมมนาวิชาการในครั้งนี้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อค้นพบใหม่จากการศึกษาวิจัยพฤติกรรมและสัณฐานวิทยาของสัตว์ในถ้ำตามแถบเทือกเขาทิศตะวันตกของประเทศไทย (เทือกเขาถนนธงชัย เทือกเขาตะนาวศรี เทือกเขาภูเก็ต เทือกเขาสันกาลาคีรี) ซึ่งเป็นการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์กว่าร้อยล้านปีมาแล้ว และเป็นสัตว์ที่มีการปรับตัวในการดำรงชีพอยู่ในถิ่นอาศัยไร้แสงสว่าง 100% ไม่ว่าจะเป็นมดถ้ำ แมลงหางดีดถ้ำ หอยทากบกจิ๋ว สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์เลื้อยคลานในถ้ำ ซึ่งเป็น 1 ในกระบวนการวิจัยชีววิทยาเชิงลึก (Deep science in Biology) นอกจากนี้ ยังเป็นการศึกษาถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการสร้างถิ่นที่อยู่ใหม่ของมนุษย์หรือสัตว์ในอนาคต หากภาวะโลกแปรปรวนขั้นวิกฤติ ซึ่งย้อนภาพสภาวะความเป็นอยู่ของมนุษย์ถ้ำในยุคบรรพกาล

โอกาสนี้ นักวิเคราะห์ บพค. ได้กล่าวถึงที่มาความสำคัญของโครงการนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานวิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชวิทย์) มิติที่ 2 Frontier Science Alliance ผ่านแผนงาน N42(S3P19) พัฒนาและประยุกต์ใช้องค์ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าเพื่อสร้างและพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตและบริการแห่งอนาคต รวมทั้งการแก้ไขปัญหาที่ท้าทายด้านเศรษฐกิจสังคม ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของประเทศและการป้องกันประเทศ อันเป็นการขับเคลื่อนการสร้างผลงานวิจัยขั้นแนวหน้าผ่านการระดมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหลากหลายศาสตร์มาร่วมกันบูรณาการผลิตผลงานที่สามารถเกิดองค์ความรู้ใหม่เชิงลึกและตอบประเด็นปัญหาเร่งด่วนของประเทศ โดยเฉพาะโจทย์ความท้าทายระดับโลกอย่าง ’การรับมือภาวะวิกฤติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ‘ ซึ่งโครงการนี้ได้นำเอาเทคโนโลยีความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Technology) เป็นส่วนสำคัญในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ สอดคล้องตามผลการคาดการณ์ในที่ประชุม World Economic Forum ที่จัดขึ้น ณ กรุงดาวอส สหพันธรัฐสวิสที่ว่า “ในระยะยาว โลกจะยิ่งได้รับความรุนแรงจากสภาวะอากาศแปรปรวนขั้นวิกฤติจนถึงขั้นสภาพอากาศไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ และจะสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity loss) ไปอย่างไม่อาจหวนคืนกลับมา”

นอกจากนึั ทางโครงการวิจัยยังได้ศึกษาแนวทางด้านเศรษฐศาสตร์ในการออกแบบเครดิตความหลากหลายชีวภาพ (Biodiversity Credit) หรือไบโอเครดิตเป็นครั้งแรกของประเทศไทยควบคู่ไปกับคาร์บอนเครดิต อันจะเป็นกลไกในการสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจให้อนุรักษ์สมดุลธรรมชาติ และสนับสนุนการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิต อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของโลกที่จะผลักดันนโยบายไบโอเครดิตที่ใช้กับระบบนิเวศเขาหินปูนในเขตภูมิภาคแบบร้อนชื้นด้วย

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน
และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา
การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.)

Program Management Unit for Human Resources & Institutional
Development,Research and Innovation (PMU-B)

319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
02-109-5432 ต่อ 845
[email protected]

ช่องทางการติดต่อสารบรรณของหน่วยงาน :
[email protected]

      ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่