กระทรวง อว.-บพค. ผลักดันงานวิจัยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย เครื่องเอกซย์ดิจิทัลสองมิติ และ Teleconsultation สนับสนุนการนำไปใช้จริงทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ บพค. พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิรินันท์ กุลชาติ รองผู้อำนวยการ บพค. และนักวิเคราะห์ บพค. เข้าร่วมเยี่ยมชมผลงานวิจัย “เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย : DentiiScan” โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เกียรติเป็นประธานภายในงาน ซึ่งมี นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส และผู้อำนวยการโครงการ และศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (กสว.) ให้การต้อนรับ ณ อาคารต้นแบบของเนคเทค (NECTEC Pilot Plant) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี

ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัชฯ และ ดร.เสาวภาคย์ ธงวิจิตรมณี หัวหน้าคณะนักวิจัย ร่วมกันนำเสนอเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ DentiiScan ซึ่งเป็นผลงานการคิดค้นและผลิตขึ้นมาโดยนักวิจัยไทย ที่ใช้ประโยชน์ในการถ่ายภาพ 3 มิติของกะโหลกศีรษะและช่องปาก เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมและสุขภาพช่องปาก รวมทั้งการผ่าตัดแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โดยในการทำงานนั้น ผู้ป่วยจะยืนนิ่งอยู่กับที่เพื่อให้ศีรษะของตนอยู่ที่ตำแหน่งกลางระหว่างแหล่งกำเนิดและหน่วยตรวจรับรังสีเอกซ์ ซึ่งจะหมุนรอบศีรษะผู้ป่วย 1 รอบ จากนั้นอัลกอริทึมในคอมพิวเตอร์จะนำภาพที่บันทึกไว้ทุกองศาไปคำนวณเพื่อแสดงภาพสามมิติของผู้ป่วย เนื่องจากรังสีเอกซ์ซึ่งออกจากแหล่งกำเนิดจะพุ่งเป็นกรวย (Cone Beam) ครอบคลุมศีรษะไปยังหน่วยรับรังสี เทคโนโลยีนี้จึงได้ชื่อว่าลำรังสีทรงกรวย ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับรังสีน้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์ทางการแพทย์ทั่วไป ซึ่งปัจจุบัน DentiiScan และห้องประกอบ DentiiScan ได้รับรองมาตรฐานต่าง ๆ และขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ ที่สำคัญได้ถูกนำใช้งานในโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 70 แห่ง โดยมีผู้ป่วยที่ได้รับประโยชน์มากกว่า 35,000 คน และมีแผนที่จะขยายผลให้ประชาชนเข้าถึงการใช้งานเครื่องเอกซเรย์นี้เพิ่มขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ คณะนักวิจัยยังได้คิดค้นเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบเคลื่อนย้ายได้เรียกว่า MobiiScan และเครื่องขนาดเล็กไว้ตรวจหาตำแหน่งหินปูนจากก้อนเนื้อที่ตัดออกมาจากเต้านมเรียกว่า MiniiScan ทางโครงการยังได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการฝังรากฟันเทียมชื่อ DentiPlan และซอฟต์แวร์แสดงภาพ RadiiView ผ่านระบบคลาวด์บนมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ให้ทันตแพทย์และแพทย์ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทั้งยังสามารถปรึกษาทางไกลระหว่างผู้เชี่ยวชาญได้อีกด้วย
กระทรวง อว. และ บพค. พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันงานวิจัยนี้ให้ขยายผลตอบโจทย์การรักษาและการวินิจฉัยทางการแพทย์อันจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนไทยทั่วประเทศรวมถึงผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล พร้อมทั้งสนับสนุนการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของเทคโนโลยีดังกล่าวสู่เชิงพาณิชย์เพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติ