เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. มอบหมายให้ ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ บพค. เข้าร่วมงานสรุปผลการดำเนินการโครงการ “การสร้างและพัฒนาบุคลากรสมรรถนะสูงและวิศวกรเชี่ยวชาญสำหรับผู้ประกอบการให้บริการซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมให้มีทักษะการประยุกต์ใช้การประมวลผลบนระบบคลาวด์ด้วยนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (aFTi)” ที่ได้รับการสนับสนุนทุนจาก บพค. ภายใต้แผนงานเป้าหมายสำคัญในประเด็น “ประเทศไทยเกิดงานใหม่ ทักษะสูง รายได้ดี ใน 3 อุตสาหกรรม (Semiconductor, EV และ AI)” ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ ห้อง Grand Ballroom โรงแรมคาร์ลตัน สุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
ภายในงานฯ ได้รับเกียรติจาก คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ บพค. และคุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จของโครงการ พร้อมแถลงวิสัยทัศน์ต่อการสนับสนุนของหน่วยงานร่วมกับโครงการ
โอกาสนี้ ผศ.ดร.วรรณรัช สันติอมรทัต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หัวหน้าโครงการ aFTi ได้กล่าวรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการว่า โครงการได้ส่งมอบกำลังคนทักษะสูงด้านปัญญาประดิษฐ์ ให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งภาคอุตสาหกรรมการผลิตและผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเชื่อมโยงให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนา AI Solution เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ได้สำเร็จ และยกระดับทักษะบุคลากรผ่านการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและการทำงานจริงในสถานประกอบการ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศ AI (AI Ecosystem) ของไทยในหลายมิติ
นายเกรียงไกรฯ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โลกกำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านด้วยเทคโนโลยี Digital และ AI สำหรับธุรกิจไทยเองยิ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการโต้ตอบการค้าทางภาษี ในส่วนนี้ทาง ส.อ.ท. ได้วางนโยบาย “Go Digital & AI” เป็นยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้แผน “4 GO” เพื่อผลักดันผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้พร้อมต่อการแข่งขันอนาคต ส.อ.ท. รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จในโครงการนี้ เพื่อยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมก้าวเข้าสู่ยุค AI และนับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการต่อการสร้างองค์ความรู้ สร้างเครือข่าย และพัฒนาศักยภาพด้าน Digital & AI โดยการออกแบบโครงการสอดคล้องกับการพัฒนาภาคการผลิตอย่างตรงจุด
ด้าน ดร.รัฐภูมิฯ รองผู้อำนวยการ บพค. ได้กล่าวถึงบทบาทของ บพค. ต่อการขับเคลื่อนโครงการสร้างบุคลากรทักษะสูงด้าน AI ซึ่งเป็นหัวใจของการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้ ที่ผ่านมา บพค. ให้การสนับสนุนการพัฒนาคนในหลากหลายมิติ ทั้งการสร้างนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึก และบุคลากรทักษะสูงเพื่อป้อนกำลังคนเข้าไปยังทุกระดับของห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาหลักสูตรเพื่อการยกระดับทักษะ AI ของบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งสนับสนุนความร่วมมือระหว่างองค์กรของไทยกับหน่วยงานด้าน AI ระดับโลกเพื่อยกระดับมาตรฐาน AI ของไทยให้เป็นระดับสากล พร้อมกันนี้ ยังกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้เข้าร่วมโครงการที่ได้รับการพัฒนาทักษะ AI ขั้นสูงจนนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเองและเกิดเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในโครงการ การดำเนินงานของ บพค. จึงเป็นกลไกสำคัญที่ตอบสนองต่อการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยให้เท่าทันต่อการแข่งขันในเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมเน้นย้ำว่า “การเรียนรู้ที่ดี คือ การเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และต้องทำให้คนไทย มีงานที่ดี มีรายได้ที่ดี และมี GDP ของประเทศที่สูงขึ้น”
สำหรับบทบาทหน่วยงานด้านการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. มี รศ.ดร.นพพรฯ รองผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า AI คือ ตัวแปรสำคัญในการจุดติดใหม่ของเครื่องยนต์ (New growth engine) เศรษฐกิจไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ความร่วมมือในครั้งนี้ ภาครัฐได้นำกลไกระบบ ววน. ผ่านหน่วยบริหารจัดการทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการพัฒนากำลังคน เข้ามาช่วยเสริมการเปลี่ยนผ่าน จัดเตรียมความพร้อมกำลังคนทักษะสูงป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต ตอบสนองต่อการย้ายฐานการผลิตของโลก และเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยในระยะยาว
นายวัตสันฯ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AWS ได้กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ยินดีที่จะสนับสนุนการยกระดับทักษะด้าน AI ให้แก่บุคลากรไทย ผ่านการถ่ายทอดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลของ AWS เพื่อผลักดันการพัฒนา Generative AI และเทคโนโลยีคลาวด์ขั้นสูงในภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้แข่งขันได้ในระดับโลก โครงการ aFTi นี้ จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการจากภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องการองค์ความรู้และกำลังคนทักษะสูง เพื่อนำ AI เข้ามาใช้ปรับปรุงแก้ไขปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
นอกจากนี้ ภายในงานฯ ยังมีการจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ “ก่อนและหลังการนำ AI มาปรับใช้ในอุตสาหกรรม: ประสบการณ์ดี ๆ ที่อยากแชร์จากผู้เข้าร่วมโครงการ aFTi” ซึ่งเป็นเวทีที่จัดขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการนำ AI ไปใช้แก้ไขโจทย์จริงในอุตสาหกรรมจนประสบความสำเร็จ เป็นผลมาจากลักษณะของโครงการที่เน้นใช้รูปแบบการฝึกฝนด้วยโจทย์จริงจากอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีทักษะในการสร้าง AI solutions ที่พร้อมใช้งานจริงในสายการผลิตของตนเอง และเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่พร้อมจะขยายผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้พิสูจน์ว่าประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะนำ AI เข้ามาใช้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม
ความร่วมมือระหว่าง บพค. สกสว. ส.อ.ท. มอ. และ AWS ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญของการเพิ่มความเข้มแข็งแก่ภาคอุตสาหกรรมด้วย AI เพื่อยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจไทยให้สามารถทำกำไร และยืนหยัดอยู่ได้ในยุคแห่ง Digital & AI อย่างมั่นคง
