บพค. ระดมคณะผู้บริหารหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จัดเสวนาวิชาการ “การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและสถาบันวิจัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” ภายในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) จัดเสวนาวิชาการในหัวข้อ “การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและสถาบันวิจัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” ภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2568 (Thailand Research Expo 2025) ซึ่งมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 16 – 20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซนทารา แกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

โอกาสนี้ นางสาวธนวรรณ ศรีทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนากำลังคนเชิงยุทธศาสตร์ บพค. ได้รับมอบหมายจาก ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. เป็นผู้แทนบรรยายแนวทางการสนับสนุนทุนที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ภายใต้แผนงานในยุทธศาสตร์ที่ 3 และ 4 ตามแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้กำลังจะมีการขึ้นร่างแผนด้าน ววน. ใหม่ ที่จะใช้ระหว่างปี 2571 – 2575 เพื่อเป็นแกนหลักสำคัญในการจัดสรรทุนของประเทศต่อไป นอกจากนี้ น.ส.ธนวรรณฯ ยังได้ชี้แจงถึงวิสัยทัศน์ พันธกิจของ บพค. พร้อมประเด็นเทคโนโลยี 6 อุตสาหกรรมสำคัญที่ บพค. มุ่งเน้น ได้แก่

  1. Digital and Computing
  2. Sensor and Electronics
  3. Biotechnology
  4. Clean Energy
  5. Advanced Materials และ
  6. Frontier Technology (Earth, Space, High-energy physics, Plasma, Quantum)

โดย บพค. จะเป็นหน่วยงานเชิงยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนการสร้างกำลังคนให้มีสมรรถนะสูงเป็นฐานการขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลก (Ground Breaking) เทคโนโลยีที่รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและรองรับการบริการแห่งอนาคต และเทคโนโลยีที่แก้ปัญหาท้าทายทางสังคมอย่างยั่งยืน ร่วมกันกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งระบบ เพื่อสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
น.ส.ธนวรรณฯ กล่าวทิ้งท้ายประชาสัมพันธ์การจัดงานเวที “ชี้แจงทิศทางการสนับสนุนทุน บพค. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569” Thailand Brainpower Briefing 2026 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงเป้าหมายการสนับสนุนทุนวิจัยปี 2569 ให้นักวิจัยที่สนใจรับทุนรับทราบเงื่อนไขและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการรับทุน บพค. พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาและการยื่นข้อเสนอโครงการ ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานผ่านช่องทางการสื่อสารของ บพค.

การจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากจากผู้บริหารผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานสำคัญในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการวิจัย ได้แก่ รศ. ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) (สซ.) ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดร.พงศธร ประภักรางกูล รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ดร.ศุภชัย อาวิพันธุ์ ผู้จัดการศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีทัศนศาสตร์และโฟโตนิกส์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) คุณเอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ดร.วงศกร พูนพิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเครือข่ายวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม สวทช. เป็นผู้ดำเนินรายการเสวนา ที่มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลในประเด็นด้านการวางแผนการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานหลักของในแต่ละหน่วยงาน การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการพัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีภายใต้หน่วยงาน

รศ. ดร.สาโรชฯ กล่าวว่า “การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน วทน. นั้นต้องมุ่งเน้นตามความต้องการของหน่วยงานที่จะนำไปใช้ประโยชน์ และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนมีผลงานที่ใช้ประโยชน์จากเครื่องเร่งอนุภาคแสงซินโครตรอนมากมาย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการสแกนภาพฉาย 3 มิติของสมองมนุษย์ที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการวินิจฉัยด้านการแพทย์ได้ดี หรือเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน เทคโนโลยีนี้อยู่ในระดับที่สามารถให้บริการในประเทศได้เพียงพอ แต่ก็ยังต้องพัฒนาให้ขีดความสามารถของเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อทัดเทียมกับเทคโนโลยีระดับโลก และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ”
ดร.สมบุญฯ กล่าวถึงโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model, LLM) โดยเฉพาะ Chat-GPT ที่เข้ามามีบทบาทของมนุษย์ในประจำวัน ฐานข้อมูลด้านจีโนมแห่งชาติที่จะมีประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) ที่ทาง สวทช. ก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาให้มีเทคโนโลยีเพียงพอต่อการทำวิจัยในทุกด้าน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการวิจัยของประเทศ
ดร.พงศธรฯ เน้นย้ำว่า วว. เป็นสถาบันวิจัยที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการพัฒนางานวิจัยและให้บริการแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับมาตรฐานสากลอย่าง OECD เพื่อช่วยลดค่าใช้บริการจากเทคโนโลยีของต่างประเทศ และพึ่งพาการใช้เทคโนโลยีภายในประเทศ อาทิ วว. มีโรงงานต้นแบบสเต็มเซลล์ตามมาตรฐาน GMP เป็นต้น
ดร.ศุภชัยฯ กล่าวว่า ประเทศเราต้องเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศให้ทัดเทียมนานาชาติ ซึ่งมิใช่การสร้างดาวเทียมเพื่อเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น แต่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบนิเวศทั้งระบบของเทคโนโลยีอวกาศในการรองรับการขึ้นรูปชิ้นงาน เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างเช่นระบบ Payload และ Optical System
ด้าน คุณเอกพงศ์ฯ กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการในแต่ละอุตสาหกรรม และการแก้ปัญหาประเทศ ซึ่งประเทศไทยยังมีข้อจำกัดเรื่องการ Connect the Dot โครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานแต่ละแห่ง เพื่อให้เกิดการบูรณาการใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดย กปว.สป.อว. สามารถเป็นสะพานเชื่อมคนเก่ง คนมีความสามารถของหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้กระทรวง อว. เพื่อมาร่วมกันผลักดันการใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด โดยเฉพาะการหาคนรุ่นใหม่ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีระดับยูนิคอร์นของประเทศได้ อย่างเช่นเทคโนโลยีการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีการเงิน หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็น Mad in Thailand แล้วส่งออกสู่ตลาดโลกได้ ซึ่งต้องอาศัยการร่วมมือกันทำงานของแต่ละภาคส่วนในกระทรวง อว. อย่างเข้มแข็งต่อไป

บพค. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นหน่วยงานสำคัญที่ร่วมพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ผ่านการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของหน่วยงานด้านการวิจัยของประเทศไทย

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน
และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา
การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.)

Program Management Unit for Human Resources & Institutional
Development,Research and Innovation (PMU-B)

319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
02-109-5432 ต่อ 845
[email protected]

ช่องทางการติดต่อสารบรรณของหน่วยงาน :
[email protected]

      ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่