เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตร จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือการขับเคลื่อนพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภายใต้โครงการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งมุ่งเน้นให้เกิดนวัตกร วิศวกร และนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็ว (Super AI Engineer Season 5) โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “แนวทางนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI Disruption)” ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (ถนนโยธี)
ภายในงานได้สะท้อนถึงความร่วมมือในการขับเคลื่อนพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ, ภาคเอกชน, และภาคประชาสังคม อย่างแท้จริง โดยมีผู้บริหารระดับสูงทั้งจากหน่วยงานที่ดำเนินโครงการ Super AI Engineer Season 5 และหน่วยงานผู้ให้การสนับสนุน มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก อาทิ ผศ. ดร.นงนุช เกตุ้ย หัวหน้าโครงการ Super AI Engineer Season 5, ผู้บริหารจาก LG, SCBX, บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด, AXONS Corporate, เดอะไพน์ รีสอร์ท, บริษัท อัลโต้เทค โกลบอล จำกัด, SCG, บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด, บริษัท ทัชเทค โซลูชั่น จำกัด, ศูนย์ประสานงานเครือข่ายภูมิภาค 5 ศูนย์ และมหาวิทยาลัยในเครือข่าย, ศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (NSTDA Supercomputer Center: ThaiSC, สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT), หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.), ธนาคารแห่งประเทศไทย, โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน, สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย เป็นต้น
ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาด้าน AI ของประเทศไทย พบว่ามี 2 ปัญหาหลัก คือ การขาดแคลนบุคลากรและการประยุกต์ใช้ AI ยังมีน้อย รวมไปถึงแผนพัฒนา ทางกระทรวง อว. จึงได้กำหนดนโยบาย “อว. for AI” มุ่งเน้นการดำเนินการใน 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. AI for Education : การใช้ AI ในการเรียนการสอนให้คนไทยมีศักยภาพสูงสุด และเร็วที่สุด 2. AI Workforce Development : การพัฒนาบุคลากรด้าน AI และการสร้างพื้นฐานด้าน AI ให้คนไทยในระบบการศึกษาและตลาดแรงงาน และ 3. AI Innovation : การสนับสนุนนวัตกรรม AI สู่ตลาด การพัฒนามาตรฐานและทดสอบ รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดความแพร่หลายเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย ซึ่งหากดูข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ปัจจุบันมีการขาดแคลนคนทำงานด้าน AI กว่า 8 หมื่นคน แต่คน AI กว่าครึ่งไม่ได้ทำงานด้าน IT และธุรกิจยังมีความต้องการจ้างคนไปทำวิจัยพัฒนาในสัดส่วนที่สูงที่สุด (ร้อยละ 35)
ด้าน ดร.ภาวดี อังค์วัฒนะ รองผู้อำนวยการ บพค. เน้นย้ำว่า วิสัยทัศน์ของ บพค. ที่เป็นหน่วยงานขับเคลื่อน ส่งเสริม สานพลัง ระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ในการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงและงานวิจัยขั้นแนวหน้า เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศไทยสู่อาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ อว. ด้าน AI Workforce Development ดังนั้น การพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของประเทศแบบ Demand Driven ให้พร้อมรับการ Disruption ของโลก จึงมีความสำคัญ ซึ่งเห็นได้จากการสนับสนุนทุนด้านพัฒนากำลังคน ด้าน AI ภายใต้กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ภายใต้โครงการ “AI for All” โดยเฉพาะโครงการ Super AI Engineer ได้พัฒนาวิศวกรด้าน AI และกลุ่มผู้ใช้เครื่องมือ AI Tools (AI Beginner/Prompt Engineer) จำนวนมาก โดยจากข้อมูลสถิติของสำนักงานปลัดกระทรวง อว. ปีการศึกษา 2565 – 2566 มีบัณฑิตที่จบหลักสูตรสาขาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยตรง ไม่ถึง 500 คน โครงการ Super AI Engineer จึงมีส่วนในการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนคนทำงานด้าน AI
ในขณะที่ ดร.เทพชัย ทรัพย์นิธิ นายกสมาคม AIAT กล่าวว่า ด้วยพันธกิจของสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทยที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดระบบนิเวศปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Ecosystem กำลังคนจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการขับเคลื่อน ดังนั้นการสร้างและพัฒนาให้คนมีความรู้ มีการพัฒนาความสามารถด้าน AI และเป็นคนที่มีมาตรฐานตามสมรรถนะของบุคคลในการประกอบอาชีพ รวมไปถึงการเชื่อมโยงเครือข่าย โดยสมาคมฯ เป็นสื่อกลางในการดำเนินงาน ซึ่งส่งผลให้ประเทศมีความเข้มแข็งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมเสวนาพิเศษในหัวข้อ “การพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์จะช่วยประเทศได้อย่างไร ?” โดย ดร.ศวิต กาสุริยะ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ รศ. ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) รศ. ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Chief Innovation Officer, SCBX และคุณอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ Super AI Engineer Season 5 เพื่อ Upskill / Reskill ให้มีทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน โครงการในแทรค AI Innovator, AI Engineer หรือ AI Researcher สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ superai.aiat.or.th ภายในวันที่ 2 มีนาคม 2568 เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ level 2 ได้ ส่วนใครที่ต้องการเรียน AI พื้นฐานผ่านทางระบบออนไลน์ที่มีให้เลือกเรียน AI หลากหลายด้านได้กว่าร้อยบทเรียน เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ก็สามารถสมัครได้ที่ superai.aiat.or.th เช่นกัน โดยสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568 เมื่อสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วทุกคนจะสามารถเริ่มเรียนได้ทันที สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ superai.aiat.or.th เฟซบุ๊กเพจ Super AI Engineer Development Program และคุณฌัชชา สุภานุภาพพงศ์ สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย โทร. 09 7186 1734 หรือ อีเมล [email protected]