เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) นำโดย ดร.ศุภฤกษ์ บุพศิริ และ ดร.สนธยา ชัยอาวุธ นักวิเคราะห์อาวุโส บพค. เข้ารับโล่และใบประกาศเกียรติคุณในฐานะผู้แทนหน่วยงานผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขันออกแบบหัวรถจักรไฟฟ้า TRRN Railway Challenge 2025 จากรองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ประธานในพิธีเปิดงานฯ และติดตามรับชมการแข่งขัน Presentation challenge ของผู้เข้าแข่งขันจากสถาบันต่างๆ ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนคราชสีมา ซึ่งมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2568

โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านวิศวกรรมระบบรางรองรับอุตสาหกรรมระบบรางที่กำลังเติบโต เพื่อสนับสนุนและผลักดันให้นักศึกษาได้พัฒนาสร้างสรรค์ผลงานด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรียนรู้ระหว่างนักศึกษาในแต่ละสถาบันและบุคลากรในระบบอุตสาหกรรมขนส่งทางราง
ภายในงานฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนสามารถจัดการแข่งขันครั้งนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว โดยได้รับการสนับสนุนหลักจากที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ทปอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สอวช. และศูนย์ผู้เชี่ยวชาญระบบราง (TRRN) โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งนักศึกษาและอาจารย์ผู้ดูแล จำนวน 13 ทีม จากมหาวิทยาลัยทั้งหมด 12 แห่ง จำนวนคนรวม 190 คน และมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้นกว่า 260 คน ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทย ทั้งนี้ นอกจากการแข่งขันออกแบบหัวรถจักรไฟฟ้าแล้ว ยังมีการแข่งขันทดสอบเชิงเทคนิคด้านวิศวกรรมระบบราง (Track-based challenge) ได้แก่ ATP, Noise, Traction, Ride comfort, Energy consumption, Endurance และ Reliability challenge อีกด้วย ซึ่งเป็นการแข่งขันที่อ้างอิงได้ถึงสมรรถนะของตัวรถไฟฟ้าใช้งานได้จริงและจำลองสถานการณ์ได้อย่างสมจริงที่สุดด้วย

ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ฯ กล่าวอีกว่า งานนี้เป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาคนด้านระบบราง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน อันเป็นการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมระบบราง อย่างไรก็ตามการทำงานแบบเป็นหุ้นส่วน (เครือข่าย) กันหรือ Partnership ยังมีอยู่ค่อนข้างน้อย หากต้องการให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถการแข่งขันได้เข้มแข็งมากขึ้น ต้องมีการจัดกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ เป็นเวทีเพื่อให้คณาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษาได้มาพบปะกัน พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญของเอกชนด้วย และในครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสดีที่ทางหน่วยงานให้ทุนอย่าง บพค. (PMU-B) มาร่วมให้การสนับสนุนด้วย จึงถือเป็นโอกาสที่สำคัญยิ่งที่จะให้เกิดการร่วมมือกันเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ให้ บพค. ได้เห็นความสำคัญและผลักดันให้เกิดการสนับสนุนในระดับชาติต่อไป
โอกาสนี้ บพค. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิด มุมมองของนักวิจัยและผู้ทรงคุณวุฒิถึงแนวทางการสนับสนุนทุนวิจัยด้านการพัฒนาคนระบบรางให้สอดคล้องตามนโยบายของคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) รวมถึงนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมการผลักดันเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค (Logistic Hub) และร่วมให้กำลังใจแก่ผู้เข้าแข่งขันจากทั้ง 12 สถาบันอุดมศึกษาด้วย